นักวิ่งทั้งมือใหม่และมืออาชีพ มักจะมีการซ้อมวิ่งอยู่กันเสมอๆ ซึ่งแล้วแต่ความถนัดและความตั้งใจของแต่ละคน จึงทำให้มีเทคนิคในการวิ่งที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากประสบการณ์ต่างกันด้วย ดังนั้นอาจจะมีการผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการวิ่งได้ เราได้รวบรวม 5 ข้อผิดพลาดในการซ้อมของนักวิ่งมาฝาก เพื่อเหล่านักวิ่งจะได้นำไปปรับใช้ค่ะ
1. เพิ่มระยะวิ่งเร็วเกินไป
การวิ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้กำลังมาก ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่หลายคนนิยมกันมาก เพราะฉะนั้นนักวิ่งหลายคนที่รักการวิ่งจนถึงขั้น เป็นนักวิ่งมาราธอน หรือวิ่งเทรล ก็จำเป็นต้องฝึกซ้อมร่างกายมากขึ้น ต้องพัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น และพัฒนาระบบการหายใจ ทำให้นักวิ่งหลายคนรีบวิ่งเร็วขึ้น กระโดดสูงขึ้น จังหวะการวิ่งที่เร่งขึ้น เพื่อทำเวลา หรือสะสมไมล์ระยะวิ่ง ดังนั้นบางครั้งร่างกายไม่สามารถปรับตัวตามได้ทัน และอาจเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้
กฎทั่วไปในการซ้อมวิ่ง ควรเพิ่มระยะไม่เกิน 10% ต่อสัปดาห์ ค่ะ เช่น ถ้าตั้งเป้าหมายในสัปดาห์นี้ วิ่งได้ 10 กิโลเมตร ดังนั้นสัปดาห์ถัดไป ควรเพิ่มระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร นั่นหมายถึง สัปดาห์นั้นวิ่ง 11 กิโลเมตร ที่คุมแบบนี้เพราะไม่ให้วิ่งแบบเร่งจังหวะเร็วเกินไป เพราะร่างกายอาจจะปรับตัวไม่ทัน แต่ถ้าใครที่มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอยู่แล้ว วิ่งสัปดาห์ละประมาณ 50 กิโลเมตร สามารถเพิ่มเป็นระยะ 55 กิโลเมตรได้ค่ะ
2. ไม่ฟังเสียงของร่างกาย
นักวิ่งหลายคนมักจะเกิดข้อผิดพลาดข้อนี้เยอะ เพราะคุณมักจะซ้อมจนลืมฟังเสียงร่างกาย ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ไหวไหม บางคนยึดติดกับ Pace (ความเร็วในการวิ่ง นาที/กิโลเมตร) ซึ่งในปัจจุบันนี้เราสามารถดู Pace ได้อย่างเรียลไทม์กับนาฬิกาวิ่ง หรือแอพพลิเคชั่นในมือถือ ทำให้เหล่านักวิ่งมุ่งมั่นที่จะวิ่งให้ได้ระดับ Pace ที่เร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ฟังเสียงร่างกายขณะนั้น ว่าในสภาพอากาศ หรือสภาพพื้นที่วิ่ง ต่างกันอย่างไร ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยส่งผลให้ร่างกายปรับตามสภาพเหล่านั้นไม่ทัน ดังนั้นคุณควรวิ่งในระดับ Pace ที่ร่างกายไหว ปรับให้เหมาะสมกับปัจจัยภายนอกและภายใน อาจจะมี Pace ที่ต่ำกว่าที่เคยวิ่งบ้างก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับ Pace มากเกินไปค่ะ
3. ซ้อมหนักโดยไม่มีวันพัก
ซ้อมจนไม่มีวันพัก เป็นข้อผิดพลาดที่สำคัญมาก ถ้าใครซ้อมจนไม่มีวันพักให้ร่างกายเลย ย่อมจะส่งผลให้ร่างกายถูกใช้ไปอย่างหนัก โดยไม่มีการพักฟื้นเลย ซึ่งผลเสียที่ตามมา อาจจะทำให้คุณบาดเจ็บได้ ดังนั้นจำเป็นที่ต้องมีวันพักอยู่ในตารางการฝึกซ้อมของคุณด้วย หรือคุณอาจจะทำ cross-training ซึ่งเป็นการทำเทรนนิ่งแบบเบาๆ ไม่มีการกระแทกหนักๆ เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน วิ่งเบาๆ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว มีการพักฟื้นของกล้ามเนื้อ ไม่เป็นการซ้อมหนักจนเกินไป และทำให้นักวิ่งหลายคนรู้สึกสบายใจที่ได้ออกแรงบ้างในวันที่พักค่ะ สำหรับบางคนที่เสพติดการออกกำลังกายนะคะ
4. เร่งการซ้อมมากเกินไป
การฝึกซ้อมเป็นสิ่งสำคัญ และคุณจำเป็นต้องมีการวางแผนการฝึกซ้อมที่ดีด้วย โดยไม่เร่งการซ้อมมากเกินไป บางคนอัดการซ้อมไว้ จนไม่มีเวลาให้ร่างกายได้ปรับตัว ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นปัญหาตามมาคือ ร่างกายบาดเจ็บ เพราะฉะนั้นคุณควรให้เวลากับระยะ และร่างกายของคุณด้วย ค่อยๆซ้อม เพิ่มความเร็ว เพิ่มระยะทาง และเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกายคุณ จะดีกว่าการเร่งซ้อมในเวลาอันสั้น
นักวิ่งมือใหม่ ที่ไม่ได้วิ่งเป็นประจำ ถ้าลงแข่งขันระยะ 5-10 กิโลเมตร ควรซ้อมประมาณ 1-3 เดือน ส่วนสำหรับการวิ่งมาราธอน ควรซ้อมประมาณ 4-6 เดือน วางแผนและค่อยๆฝึกซ้อม จะทำให้คุณทำสำเร็จตามเป้าหมายได้ค่ะ
5. ฝืนการบาดเจ็บ
มีหลายคนที่มักจะละเลยอาการบาดเจ็บของตัวเองไป คิดว่าเป็นการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เดี๋ยวก็หาย ฝืนวิ่งไปทั้งๆ ที่รู้สึกเจ็บ ซึ่งการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ นี่เอง อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ใหญ่ได้ ดังนั้นคุณไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะการบาดเจ็บเล็กน้อยเปรียบเสมือน "ใบเหลือง" ที่เตือนร่างกายให้พักก่อน ซึ่งดีกว่าคุณได้ "ใบแดง" หมดสิทธิ์ไปต่อในสนามนะคะ ลองสำรวจร่างกายและเอาไปปรับใช้กับการฝึกซ้อมดูนะคะ